เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เผยแพร่ความรู้ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนและผู้สนใจหาความรู้เพิ่มเติม

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ที่มาของการแบ่งเวลาเป็น A.M และ P.M

a.m. และ p.m. เป็นระบบการบอกเวลาสากลที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งใช้บอกเวลาเป็น 2 ช่วงๆละ 12 ชั่วโมง ดังนี้

a.m. ย่อมาจาก ante meridian
เป็นภาษาละติน หมายถึง ช่วงเวลาระหว่างเที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน (before midday) ซึ่งเป็นการบอกเวลาในช่วงเช้า ‘in the morning’

ส่วน p.m. ย่อมาจาก post meridian
เป็นภาษาละติน หมายถึงช่วงเวลาระหว่างเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน (after midday) ซึ่งเป็นการบอกเวลาในช่วงบ่ายหรือเย็น ‘in the afternoon or evening’ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประโยคที่ใช้ระบบการบอกเวลาแบบ a.m. และ p.m.
John came home from party at 3.00 a.m.จอห์นกลับจากงานปาร์ตี้ถึงบ้านตี 3 (Three o’clock at night)
The match starts at 3.00 p.m.ฟุตบอลนัดนี้เริ่มแข่งเวลาบ่าย 3 โมง (Three o’clock in the afternoon)

การใช้ a.m.และ p.m. จะใช้กับการบอกเวลาที่เป็นตัวเลข (number expressing time) และจะไม่ใช้ a.m. หรือ p.m. กับ o’clock
นอกจากนี้ ข้อแตกต่างในการใช้ a.m.และ p.m. มักสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้คือ เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสิบสองนาฬิกา หรือ 12.00 a.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงคืน (midnight) แต่ถ้านาฬิกาบอกเวลา 12.00 p.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงวัน

ที่มา
http://www.aksorn.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Let's comment here!!!!!!

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น